top of page

Simple Visit Bhatan

Description


กำหนดการทริป Simple Visit BHUTAN

5-9 December 2025


วันที่ 5 ธันวาคม 2568

04.30 น. พร้อมกัน ณ จุดนัดหมายภายในท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เพื่อเช็คชื่อ ตรวจสอบสัมภาระ ก่อนนำทุกท่านไปเช็คอิน โหลดสัมภาระที่เคาน์เตอร์สายการบิน Druk Air

06.00 น. ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Druk Air เที่ยวบิน KB153

 *** เครื่องบินแวะจอดรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่เมืองกัลกัตต้า, อินเดีย 40 นาที ***


08:15 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติพาโร ราชอาณาจักรภูฏาน

 (เวลาท้องถิ่นราชอาณาจักรภูฏาน ช้ากว่าที่ประเทศไทย 1 ช.ม.)

ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง / ศุลกากร

หลังจากรับสัมภาระ ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว นำทุกท่านขึ้นรถบัสออกเดินทางไปยังกรุงทิมพู เมืองหลวงของราชอาณาจักรภูฏาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง)

ระหว่างการเดินทางแวะชมสะพานแขวนทอดข้ามแม่น้ำ ซึ่งสร้างโดยพระลามะชาวทิเบต ในศตวรรษที่15 ชื่อ Thangtong Gyalpo ที่เดินทางมาเพื่อต้องการมาหาแร่เหล็ก และท่านได้คิดค้นการทำโซ่เหล็กเป็นครั้งแรก และชมเจดีย์สามองค์ริม ฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเป็นเจดีย์แบบทิเบต ภูฏาน และเนปาล ณ จุดบรรจบของแม่น้ำพาชู กับแม่น้ำทิมพูชู ที่บริเวณด่านชูซอม (Chuzom) เดินทางต่อท่ามกลางทิวทัศน์งดงามภูเขาสูง สลับทิวสน และบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน

*** กรุงทิมพู เมืองหลวงของราชอาณาจักรภูฏาน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,248 - 2,648 เมตร (7,375 ฟุตถึง 8,688 ฟุต) กรุงทิมพูจัดว่าเป็นเมืองหลวงที่มีระดับความสูงที่สุดอันดับห้าของโลก.

11.00 น. ถึงยังกรุงทิมพู นำทุกท่านไปยัง Memorial Chorten หรือมหาสถูปที่พระราชินีในรัชกาลที่ 2(พระราชมารดา) สร้างถวายเพื่อเป็นเครื่องรำลึกถึงพระเจ้าจิกมี ดอร์จี วังชุก(รัชกาลที่ 3) ผู้ทรงได้รับการยกย่องว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization)


สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ที่ภัตตาคารท้องถิ่น (1)

จากนั้น นำทุกท่านเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าและสิ่งทอภูฏาน (Textile Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งในปี 2544 ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในภูฏานและต่างประเทศที่สนใจในเรื่องราวของสิ่งทอ ผ้าเก่าโบราณ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นถิ่นของคนภูฏาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พิพิธภัณฑ์สิ่งทอภูฏานเกิดขึ้นจากแรงบันดาลพระราชหฤทัยในสมเด็จพระราชินี Ashi Sangay Choden Wangchuck ในรัชกาลที่ 4 ของราชอาณาจักรภูฏาน โดยเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เมื่อปี พ.ศ.2544 โดยใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 165,000 ดอลลาร์ ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจาก ประเทศเดนมาร์ก รัฐบาลภูฏาน และบุคคลทั่วไปที่ร่วมบริจาค สำหรับเทคนิค ระบบการจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ได้รับความช่วยเหลือ สนับสนุน จาก พิพิธภัณฑ์ Peabody Essex สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์จากราชวงศ์ Wangchuck อีกด้วย ความสำคัญของสิ่งทอของภูฏานนั้นเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ลวดลายที่สลับซับซ้อนในงานศิลปะสิ่งทอ อันเป็นเอกลักษณ์โดยเฉพาะของภูฏาน ทักษะและวิธีการที่ใช้สร้างสรรค์สิ่งทอ บทบาทที่น่าสังเกตในงานทางศาสนา งานทางการ และงานสังคมที่แสดงโดย "ภาพสัญลักษณ์และความรู้โบราณ" และความหมายอันศักดิ์สิทธิ์ที่ลึกซึ้ง

จากนั้น นำทุกท่านออกเดินทางไปยังสวนสัตว์ทาคิน เป็นเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า ทาคินเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน เดิมทีสวนสัตว์แห่งนี้เป็นสวนสัตว์ขนาดเล็ก ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นเขตอนุรักษ์เมื่อพบว่าสัตว์เหล่านี้ไม่อาศัยอยู่ในป่าโดยรอบแม้จะถูกปล่อยอิสระแล้วก็ตาม เหตุผลที่ประกาศให้ ทาคิน เป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏานเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2548 อันเนื่องมาจากตำนานเกี่ยวกับการสร้างสัตว์ชนิดนี้ในภูฏานในศตวรรษที่ 15 โดยลามะดรุกป้าคินเลย์ (Drukpa Kunley) รูปลักษณะอันเป็นลักษณะเฉพาะตัวของทาคินมีลักษณะคล้ายการผสมผสานระหว่างแพะและวัว มีกีบเท้าราบและมีเขาคล้ายแพะ แต่ไม่มีเครา หางสั้น ลำตัวใหญ่ ขนสีน้ำตาลทองหรือสีเหลืองทอง จมูกใหญ่ คล้ายมูส และมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นทำให้หลายคนเรียกทาคินว่า "ละมั่งแพะ" ภายในเป็นกรงขนาดใหญ่ที่ปล่อยให้ทาคินอาศัยอยู่อย่างอิสระ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมและเรียนรู้จักทาคิน ได้ตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางต่อไปยังพระพุทธรูปองค์ใหญ่ดอร์เดนมา ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขาในภูฏานเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปีของสมเด็จพระราชาจิกมี ซิงเย วังชุก รัชกาลที่ 4 สถานที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุให้กับสมเด็จพระราชาธิบดีชิกเม เคซาร์ นัมเกยล วังชุก องค์พระพุทธรูปสร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ปิดทอง สร้างบนพื้นที่เดิมของ Kuensel Phodrang พระราชวังที่ประทับของ Sherab Wangchuk Druk Desi การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 2549 เป็นพระพุทธรูป องค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่ง ของโลก สูง 177 ฟุต (54 เมตร) และมีพระพุทธรูปสำริดปิดทองสูง 8 นิ้ว จำนวน 100,000 องค์ และพระพุทธรูปสำริดปิดทองสูง 12 นิ้ว จำนวน 25,000 องค์ (พระพุทธรูปองค์เล็กประดิษฐานอยู่ภายในองค์พระใหญ่)


จากนั้น นำทุกท่านออกเดินทางไปยังทาชิโชซอง (Tashicho Dzong) มหาปราการ-ป้อมขนาดใหญ่

ปัจจุบันเป็นพระราชวังที่ประทับของพระมหากษัตริย์ภูฏาน อีกทั้งยังเป็นพระตำหนักฤดูร้อนในสมเด็จพระสังฆราชภูฏาน พระอารามหลวง สำนักพระราชวัง ทำเนียบรัฐบาล ห้องประชุมรัฐสภาแห่งชาติ โดยแบ่ง เป็นห้องต่างๆ กว่า 100 ห้อง แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะส่วนของพระอารามหลวง ที่ประดับภาพจิตรกรรมฝาผนัง และผ้าพระบฏที่เล่าเรื่องราวในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน สถานที่แรกที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นแห่งแรกหลังจากเสด็จพระราชดำเนินถึงภูฏานและเดินทางสู่กรุงทิมพู ในช่วงเย็นแต่ละวันในเวลาประมาณ 18.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญธงชาติจากยอดเสาลงซึ่งมีริ้วขบวนงดงาม พร้อมการประโคมปีแตร ในริ้วขบวนทุกครั้ง

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน (2)

จากนั้น นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย


วันที่ 6 ธันวาคม 2568

06.00 น. อรุณสวัสดิ์ทิมพู/สรีระกิจ

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าร่วมกันที่ห้องอาหารโรงแรม (3)

08.00 น. นำทุกท่านออกเดินทางไปยัง ตลาดกลางทางการเกษตร Kaja Throm ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชมชมผลผลิตทางการเกษตรของภูฏาน

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางเมืองปูนาคา อดีตเมืองหลวงเก่าก่อนที่จะย้ายมายังกรุงทิมพูในปัจจุบัน อยู่ห่างออกไป 72 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ปูนาคาตั้งอยู่ที่ความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ระหว่างการเดินทางสู่เมืองปูนาคา แวะพักที่จุดพักรถ โดจูลาพาส เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว จิบชากาแฟ เบเกอรี่ตามอัธยาศัย ( ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงจากกรุงทิมพู) โดจูลาพาสตั้งอยู่บนเนินเขาสูงท่ามกลางบรรยากาศแสนสวยสุดแสนโรแมนติค ณ จุดชมวิวบนเขา ซึ่งหากเป็นวันที่อากาศสดใสจะมองเห็นยอดเขาโต๊ะที่มียอดแบนราบเหมือนโต๊ะและยอดเขาอื่นๆ บนเทือกเขาหิมาลัย ที่สูงกว่า 7,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล นำชมสถูป “ดรุค วังเกล” (Druk Wangyel Chorten) หรือ สถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและ สันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ ที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราชินี อาชิ ดอร์จิ วังโม วังซุก (ในรัชกาลที่ 4) เพื่อถวายพระโพธิสัตว์ และพระอรหันต์ 108 องค์ และเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความสงบสุขที่เกิดขึ้นหลังจากการปราบกบฏอัสสัมที่เข้ามาใช้พื้นที่ประเทศภูฏานในการต่อสู้กับรัฐบาลอินเดีย

จากนั้น นำทุกท่านออกเดินทางต่อไปยังเมืองปูนาคา

เที่ยง นำทุกท่านรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่ภัตตาคารท้องถิ่นที่ Farm House (4)

บ่าย นำทุกท่านเยี่ยมชมวัดชิมิ รถบัสจอดบริเวณลานจอดรถให้ทุกท่านเดินเท้าขึ้นชม วัดชิมิ (Chimi Lhakhang) (ระยะทางประมาณ 300 เมตร) หรือวัดแห่งการเกิดที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 โดยท่าน Drukpa Kuenley นักบวชลามะผู้ที่เต็มไปด้วยเวทย์มนต์พลังลึกลับและอิทธิปาฏิหาริย์ท่านได้สะกดวิญญาณนางปีศาจร้ายที่แปลงร่างเป็นสุนัขเอาไว้ใต้เจดีย์ด้วยเครื่องมือที่เป็นรูปอวัยวะเพศชายทำให้วัดแห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า No Dog Temple และยังได้เนรมิตแพะผสมวัวให้กลาย เป็น “ตัวทาคิน” สัตว์ประจำชาติของภูฏาน จึงเป็นวัดที่ชาวภูฏนนิยมมาขอพร เพื่อเพิ่มพลังให้ชีวิตและการขอบุตรกันที่วัดนี้ ซึ่งในโบสถ์จะมีรูปบูชาของท่าน และ จะมีพระลามะทำพิธีให้พรด้วยการใช้เครื่องหมายเพศชาย และคันธนูเคาะเบาๆที่ศีรษะ จากนั้นจะรินน้ำมนต์ ซึ่งตามธรรมเนียมเราต้องใช้ฝ่ามือทั้งสองรับน้ำมนต์มาแตะที่ริมฝีปากก่อนที่จะนำไปลูบที่ศรีษะ

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางไปยงปูนาคาซอง หรือที่รู้จักกันในชื่อปุงทังเดวาเชนบีโฟดรัง (หมายถึง "พระราชวังแห่งความสุขหรือความปิติยินดีอันยิ่งใหญ่ ศูนย์กลางการบริหารของเขตปูนาคาในปูนาคาภูฏานสร้างขึ้นโดยงาวังนัมเกลผู้ปกครองรินโปเชคนที่ 1 ในปี ค.ศ. 1637–38 เป็นซองที่เก่าแก่เป็นอันดับสองและใหญ่เป็นอันดับสองในภูฏานและเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่สง่างามที่สุด ซองนี้เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสายดรุกปา ทางใต้ ของ นิกาย กากิวของศาสนาพุทธ แบบทิเบต รวมถึงรังจุง คาร์ซาปานี และซากศักดิ์สิทธิ์ของงาวังนัมเกล และเทอร์ตัน เปมาลิงปา หลังจากที่ย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงทิมพูแล้ว ปูนาคาซองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่เบื้องต้นในรายชื่อเบื้องต้นของภูฏานเพื่อรวมเข้าเป็นมรดกโลกโดย UNESCO

จากนั้น นำทุกท่านเดินเท้าต่อไปยังสะพานแขวนข้ามแม่น้ำโค อันเป็นจุดเช็คอินที่มีทิวทัศน์งดงาม ท่ามกลางทิวเขาสูงเป็นฉากหลัง และมีสายน้ำที่งดงามไหลผ่านใต้สะพาน และเกาะแก่งเนินทรายเล็กๆ ที่สายน้ำตัดบรรจบกันเป็นภาพความงดงามที่หลายคนไม่พลาดเก็บบันทึกกลับไป

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน (5)

จากนั้น นำทุกท่านเข้าสู่ที่พักที่วังดีโพรดังวิลเลจ พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์วังดีโพรดัง


วันที่ 7 ธันวาคม 2568

06.00 น. อรุณสวัสดิ์วังดีโพรดัง /สรีระกิจ

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ณ ห้องอาหารโรงแรม (6)

08.00 น. เช็คเอาท์นำทุกท่านออกเดินทางไปยัง Wangdue Phodrang Dzhong มหาปราการที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของภูฏาน สร้างขึ้นในปี 1638 Ngawang Namgyal ซึ่งเป็น Zhabdrung Rinpocheองค์ที่ 1 ได้พระราชทานนามให้กับมหาปราการและเมืองๆ นี้ ในระหว่างการวางแผนการสร้างมหาปราการ ป้อม ในเมืองนี้ เพื่อป้องกันการบุกรุกจากทางใต้ เมื่อถึงจุดที่เลือก Zhabdrung ได้พบกับเด็กชายชื่อ Wangdi กำลังเล่นอยู่ข้างแม่น้ำ จึงได้ตั้งชื่อ Dzong ว่า "พระราชวังของ Wangdi Wangdi Phodrang Dzong ถูกไฟไหม้ในช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิถุนายน 2012 จากนั้น ไม่นาน Dzhong แห่งนี้ก็ได้รับการฟื้นฟูสร้างกลับคืนมาด้วยการสนับสนุนของนักท่องเที่ยวและผู้คนชาวญี่ปุ่นที่ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์เข้ากับกองทุนบูรณะ Wangdue Phodrang มูลค่าของเงินบริจาคประมาณ 134,500 ดอลลาร์สหรัฐ

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางต่อไปเข้าเมืองพาโร ศูนย์กลางธุรกิจของราชอาณาจักรภูฏาน (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงเศษ)

พักรับประทานอาหารกลางวัน ที่ภัตตาคารท้องถิ่น (7)

- แวะพักเพื่อทำธุระส่วนตัว จิบชา-กาแฟตามอัธยาศัยที่ โดจูลา พาส

นำทุกท่านเข้าเยี่ยมชม ซิมโทกาซอง (Simtokha Dzong) ซองที่เก่าแก่ที่สุด ของราชอาณาจักรภูฏาน สร้างขึ้นในสมัยรวมชาติ ปัจจุบันเป็นโรงเรียนสอนภาษา “ซองคา” ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ และใช้เป็นโรงเรียนสอนศาสนาสำหรับสามเณร-ลามะ ชมความเก่าแก่ของวัด และ สักการะพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์กวนอิมภายในโบสถ์ และสักการะ “มหากาล-มหากาลี” ซึ่งเชื่อว่าเป็นเทพเจ้าที่คุ้มครองประเทศภูฏานมาแต่ครั้งโบราณ วัดแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเคยพระราชทานผ้าพระกฐินมาทอดถวาย

จากนั้น นำทุกท่านเข้าเยี่ยมชมวัดคิชู (Kichu Temple) อายุ1,300 ปี วัดเก่าแก่ที่สุด แห่งหนึ่งของภูฏาน สร้างโดยกษัตริย์ ซองเซน กัมโป โปรดให้สร้างวัดขึ้น 108 แห่ง เพื่อตอกหมุดสะกดอวัยวะ 108 จุด ของนางยักษ์ตนหนึ่ง โดยจุดที่สร้างวัดคิชูในเมืองพาโรเป็นข้อเท้าซ้ายของนางยักษ์

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางไปรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน

จากนั้น นำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์พาโร


วันที่ 8 ธันวาคม 2568

06.00 น. รับประทานอาหารเช้า ที่โรงแรม (9)

07.00 น. ออกเดินทางสู่ Base Camp เชิงเขาวัดตั๊กซัง (Tiger Nest)

07.30 น. ถึงยังเชิงเขาวัดตั๊กซัง อิสระให้ทุกท่านทำธุระส่วนตัวก่อนเดินทางขึ้นสู่ตั๊กซัง

จากนั้น นำท่านเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขา ซึ่งถือเป็นเส้นทางแสวงบุญของชาวพุทธมหายานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

(หากประสงค์จะนั่งม้ากรุณาแจ้งไกด์ท้องถิ่น ล่วงหน้า 1 วัน- ค่าใช้จ่ายในการขี้ม้าไม่รวมในค่าโปรแกรมท่องเที่ยว) และการนั่งม้าอนุญาตให้นั่งได้เฉพาะขาขึ้นของช่วงแรกที่เป็นระดับ/จุดเดียวกันกับตั๊กซังคาเฟ่เท่านั้น นอกนั้นต้องเดินเท้าขึ้น-ลง เท่านั้น ไม่สามารถขี้ม้าได้ไปจนถึงด้านบน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว) การเดินขึ้นเขาแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ใช้เวลาช่วงละประมาณ 2 ชั่วโมง ที่ระดับ ความสูงเฉลี่ย 2,000-3,000 เมตร ในเส้นทางแสวงบุญของชาวพุทธมหายานที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ช่วงแรก (สามารถนั่งม้าได้) สิ้นสุดการเดินช่วงที่ 1 ท่านสามารถแวะพักเหนื่อย พร้อมชมภาพมหัศจรรย์ของวัดตั๊กซังที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมหน้าผาสูง หรือ รับประทานอาหารว่าง ดื่มชา-กาแฟที่จุดชมวิว Taktshang Cafe ได้ตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลา นำท่านที่ยังมีพลังศรัทธาแรงกล้าร่วมกันเดินขึ้นสู่วัดตั๊กซังข้ามเขาในช่วงที่สอง (เดินเท้าประมาณ 2 ช.ม.) ขึ้นสู่ วัดตั๊กซัง (Taktshang Lhakhang) ซึ่งเป็นวัดถ้ำ 13 วัด ที่สร้างเกาะเกี่ยวกันอยู่บนหน้าผาที่ดูเหมือนวิมานสวรรค์ล่องลอยอยู่เหนือกลุ่มเมฆ นับเป็นวัดที่มีความมหัศจรรย์1ใน10ของโลก และมีความสำคัญที่สุดของชาวภูฏานซึ่งทุกคนจะต้องขึ้นไปให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต ตามตำนาน ที่เชื่อกันว่าถ้ำเสื้อหรือรังเสือ (Tiger Nest) แห่งนี้คือสถานที่ๆ กูรู ริมโปเช หรือท่านคุรุปัทมสัมภวะ ผู้เป็นปรมาจารย์แห่งคำสอนแบบวัชรยานตันตระที่เดินทางโปรดสัตว์มาจากทิเบต ได้ขี่นางเสือ (หมายถึงศักติ หรือพลังปัญญาจากเพศหญิงที่แปลงสภาพเป็นนางเสือ) ขึ้นไปสร้างสมบุญบารมีนั่งวิปัสสนากรรมฐานบำเพ็ญสมาธิภาวนาอยู่ในถ้ำนานถึง 3 เดือน ก่อนที่ท่านจะประกาศคำสอนแก่สานุศิษย์เพื่อเผยแผ่พระศาสนาสู่ดินแดนพุทธภูมิภูฏาน ในพุทธศตวรรษที่12

(การเดินขึ้นไปถึงวัดตั้กซัง ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ อากาศบนที่สูงเบาบางซึ่งอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย ท่านที่ต้องการสละสิทธิ์กรุณาแจ้งล่วงหน้า เพื่อจัดเตรียมการดูแล)

บ่าย รอคณะที่เดินเท้าขึ้นสู่วัดตั๊กซังกลับลงมารับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน ณ Takshang café (บุฟเฟ่ต์อาหารพื้นเมืองแบบมังสวิรัติ) (10)

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านเดินเท้าต่อลงมาจากยังบริเวณ Base Camp เชิงเขาตั๊กซังจุดเริ่มต้นของการเดินเท้าขึ้นสู่วัดตั๊กซัง พร้อมชมความงดงามของต้นสน ต้นไม้ท้องถิ่น หรือ นกนานาพันธุ์ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่แห่งนี้

จากนั้น นำทุกท่านออกเดินทางไปเยียมชมย่านช้อปปิ้งในเมืองพาโร ย่านธุรกิจ ช้อปปิ้ง เล็กๆ ที่บรรยากาศน่ารัก เต็มไปด้วย ตึกรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ภูฏาน ที่มีทั้งแกลอรี่ - ภาพวาด - ภาพถ่าย - ร้านขายของที่ระลึก งานหัตถกรรม งานศิลปะ ของกินของใช้ ร้านกาแฟน่ารักๆ ให้ท่านได้ผ่อนคลายเดินเล่นเลือกชม เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ของฝากของที่ระลึกตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน (11)

จากนั้น นำทุกท่านเดินทางกลับเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์พาโร


วันที่ 9 ธันวาคม 2568

06.00 น. อรุณสวัสดิ์พาโร/สรีระกิจ

07.00 น. รับประทานอาหารเช้าร่วมกันที่ห้องอาหารโรงแรม (12)

08.00 น. เช็คเอาท์ออกเดินทางนำทุกท่านเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติภูฏาน ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 ในอาคารโบราณ Ta Dzong ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เหนือ Rinpung Dzong พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะภูฏาน ชิ้นเอกที่งดงาม อาทิ รูป ปั้นและภาพวาดสำริด มีการสร้างห้องจัดแสดงที่ผลงานต่างๆ มากมาย

จากนั้น นำทุกท่านเดินเข้าสู่ Rinpung Dzong เป็นการผสมผสานระหว่างความยิ่งใหญ่ของภูฏานและอารามที่สวยงามได้รับการออกแบบโดยท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ผู้ก่อตั้งประเทศภูฏาน ซองแห่งนี้แตกต่างจากอนุสรณ์สถานอื่นๆ เนื่องด้วยคุณภาพอันประณีตและสิ่งประดิษฐ์อันโดดเด่น ด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจและศิลปะแนวคิดอันล้ำค่า รวมทั้งภาพแกะสลัก รูปปั้น และภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ย้อนเวลาไปหลายร้อยปี ทำให้ Rinpung Dzong มีเสน่ห์ดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง ซองแห่งนี้มีรูปลักษณ์และการก่อสร้างที่งดงามอย่างเหลือเชื่อ ภาพจิตรกรรมฝาผนังหลายภาพบรรยายเรื่องราวที่น่าสนใจจากศตวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับสวนอันวิจิตรงดงามด้านหลังที่ยิ่งทำให้ซองแห่งนี้มีเสน่ห์ดึงดูดใจยิ่งขึ้น ห้องที่พิเศษและเพดานที่สร้างสรรค์ยังกระจายอยู่ทั่วทุกชั้นอีกด้วย ในส่วนของวัดมีพื้นที่เพียงพอสำหรับพระสงฆ์จำนวนมาก

ปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งชาติมีผลงานศิลปะภูฏานมากกว่า 3,000 ชิ้น ซึ่งครอบคลุมมรดกทางวัฒนธรรมของภูฏานกว่า 1,500 ปี ผลงานศิลปะและประเพณีสร้างสรรค์ที่หลากหลายของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สะท้อนถึงการผสมผสานอันน่าทึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน

จากนั้น นำท่านไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก บริเวณสะพานไม้ของริมปุง ซอง แปลว่า กองเนินอัญมณี สร้างขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยชนเผ่าฮุนเกรล และต่อมาเมื่อทุกฝ่ายยอมรับในอำนาจของซับดรุง งาวัง นัมเกล จึงได้บูรณะใน ค.ศ.1646 ให้เป็นซองประจำเมืองพาโร และเปลี่ยนชื่อจากริมปุง ซอง เป็นพาโร ซอง (Paro Dzong)

สมควรแก่เวลา นำทุกท่านไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน (13)

หากมีเวลาเพียงพอ นำทุกท่านไปยังนั่งพักจิบ ชา-กาแฟ ซื้อสินค้าพื้นเมือง – เดินชมตลาด –เมืองพาโรตามอัธยาศัย

พอสมควรแก่เวลา นำทุกท่านออกเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติพาโร เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางกลับสู่ราชอาณาจักรไทย โดยสายการบิน Druk Air พักผ่อน หรือ จิบชากาแฟ หรือช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากขอที่ระลึก หนังสือ จากร้านค้าภายในสนามบินตามอัธยาศัย

16.20 น. ออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติพาโร เพื่อเดินทางกลับราชอาณาจักรไทย โดยสายการบิน Druk Air เที่ยวบินที่ KB152 (แวะพักที่เมืองกัลกัตตาประมาณ 40 นาที)

20.30 น. ถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความสุข ความประทับใจจาการเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ดินแดนแห่งความสุข ร่วมกัน


หมายเหตุ :

1. กำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม


2.การแต่งกายชุดประจำชาติท่องเที่ยวภายในราชอาณาจักรภูฏาน จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าว่าจะนำทุกท่านแต่งในวันใด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของภูฏานดูแลจัดการชุด ตลอดจนการช่วยแต่งตัวให้กับทุกท่าน


3.การชมการแสดงวัฒนธรรมภูฏาน จะแจ้งวันในการรับชมให้ทราบล่วงหน้า

ทั้ง 2 กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมพิเศษที่อภินันทนาการให้กับทุกท่านที่ทางชมรมฯ และ บริษัทฯ แลนด์ภูฏาน ร่วมกันมอบให้กับทุกท่านที่มาเยือนภูฏาน (Simple Visit) กับเรา เพื่อสร้างความประทับใจตลอดจนเป็นภาพความทรงจำอันงดงามที่ทุกท่านสามารถบันทึกกลับไปเป็นที่ระลึก ชื่นชมได้ตราบนานเท่านาน



ดำเนินการจัดการท่องเที่ยว

โดย พิพิธเพลินใจ แทรเวล

ใบอนุญาตเลขที่ 11/11626

โทร 0952429915


ree

แพ็คเกจทัวร์

5

วัน

4

คืน

Overview

เลขที่ใบอนุญาต

11/11626

ประเทศ

BHUTAN

ดำเนินการจัดการท่องเที่ยวและโปรแกรมโดย

พิพิธเพลินใจ แทรเวล

กำหนดการต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม

Simple Visit Bhatan

4

Night

5

Day

Simple Visit Bhatan

BHUTAN
Variety Trip for all countries

4

Night

5

Day

Variety Trip for all countries

MALAYSIA
Variety Trip for all countries

3

Night

4

Day

Variety Trip for all countries

MALAYSIA

NEWEST TRIP

bottom of page